ประกันสุขภาพเหมาจ่าย BLA Happy Health และ Happy Health Premier “ครบ จบ เล่มเดียวถึง 99 ปี!”
ทำไมต้องทำประกันกับตัวแทน MDRT!?!
คุณเคยไหม…เช็คเอ้าท์ออกจากรพ.หลังแอดมิทเสร็จส่วนต่างค่าห้องหลายพันไป จนไปจบที่หมื่นกลางๆเพียงเพราะทำประกันวงเงิน “ค่าห้อง” ต่ำไป! (จขกท.เคยมาแล้ว!)
ลองซื้อประกันหลายเล่มดูแล้ว เอาค่าห้อง A มาเสริม B เอาจุดเด่น B มาอุด A
สุดท้ายแม้จะปิดจุดอ่อนนั้นได้จริง แต่ก็พบว่าจ่ายแพงกว่าที่คิดไว้เยอะ
หรือไม่แน่ใจสิ่งที่เลือกนั้นจะตอบโจทย์เราในระยะยาวหรือไม่
จะดีไหมถ้า BLA Happy Health และ Happy Health Premier
สามารถเป็นประกันสุขภาพที่ครบ จบเล่มเดียว
ไปจนอายุครบ 99 ปีให้คุณได้เลย!
1. 5 ปัญหาของประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบเก่าๆ
1.1. แผนประกันเก่าๆ ให้ ค่าห้อง น้อยมากกกก ค่าห้องรพ.ก็แพงม้ากกก เลยทำให้จ่ายส่วนต่างก้อนโตเลย!
“ส่วนต่างค่าห้องแพงมาก!”
ด้วยความที่คุณแม่ฟลุคเป็นตัวแทนของที่ BLA (ทำงานมา 21 ปีแล้วและไม่เคยย้ายบริษัท)
ผมจะได้ยินคุณแม่ประสานงานเรื่องการเคลม/ส่วนต่างกับลูกค้าตอนแอดมิทเสมอ
และคำพูดที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือ “มีส่วนต่างค่าห้อง 4,000 ค่ะ” ถ้านอนนานหน่อย “ส่วนต่างค่าห้อง 7,000++ ค่ะ”
เพราะแพคเกจก่อนหน้านี้ ค่าห้องให้ “น้อยมาก” ในขณะที่ค่าห้องโรงพยาบาลสมัยนี้ “แพงมาก”!
จากสาเหตุดังกล่าว เมื่อสินค้า HHP ออกมาปุ๊บเลยทยอยอัพเกรดแผนให้ลูกค้าทุกคนมาเป็นแพคเกจใหม่ ไฉไลกว่าเดิม!
1.2. มีสวัสดิการอยู่แล้ว แต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยแพง
BLA Happy Health Premier ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่ม
2.1 พนักงานออฟฟิศที่มีสวัสดิการ
2.2 ผู้ที่มีประกันสุขภาพของที่อื่นอยู่แล้ว แต่อยากได้ความคุ้มครองเพิ่ม
2.3 ผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณ
เนื่องจาก HHP มีแผนที่หลากหลาย กล่าวคือ 1 แผน(เหมาจ่าย 1 ล้าน, 5 ล้าน, 10 ล้าน)จะมี 3 แผนย่อย คือ
– ไม่มีส่วนรับผิด
– รับผิด 30,000 บาท
– รับผิด 100,000 บาท
เราสามารถเลือกแผนแบบมีส่วนรับผิดเพื่อรับความคุ้มครองเดียวกัน ในราคาถูกลงกว่าเดิมกว่า 50-80% แบบสุดปัง!
นิยาม:
“ความรับผิดส่วนแรก” คือจำนวนเงินที่เราจะต้องออกก่อน(หรือเบิกจากที่ไหนก็ได้ เช่น ประกันกลุ่ม หรือประกันสุขภาพบริษัทอื่น) ให้ครบตามจำนวนวงเงินที่แผนประกันสุขภาพกำหนดไว้เพื่อให้ประกันสุขภาพเริ่มทำงาน
ยกตัวอย่าง
แผนรับผิด 30,000 บาท หมายความว่า ประกันสุขภาพตัวนี้จะเริ่มทำงานตั้งแต่ 30,001 บาทเป็นต้นไป โดยค่าใช้จ่าย 30,000 บาทแรกนั้นจะไปเบิกกับที่ไหนก็ได้ (ประกันสุขภาพบริษัทอื่น สวัสดิการ หรือประกันสุขภาพบริษัทเดียวกันแต่แพคเกจอื่น) เป็นต้น
1.3. มีความยืดหยุ่น
หากในช่วงวัยทำงานเรามีสวัสดิการอยู่ แต่พอช่วงเกษียณเราจะไม่มีสวัสดิการใดๆแล้ว BLA ให้สิทธิ์ในการสลับแผนจากแบบ “มีส่วนรับผิด”เป็น”ไม่มีส่วนรับผิด”ได้ในช่วงอายุ 55-65 ปี และจะต้องซื้อมาอย่างน้อย 5 ปีโดยนับความคุ้มครองให้ต่อเนื่องและไม่พิจารณาสุขภาพใหม่!
(อ่านเพิ่มเติมใน FAQ)
1.4. ประกันสุขภาพคุ้มครองสั้นไป
ในช่วงตั้งแต่ปี 2564 และก่อนหน้า ประกันสุขภาพทั่วไปคุ้มครองสูงสุดเพียงอายุ 80 ปี หรือหากเป็นแผนเก่ากว่านั้นอาจคุ้มครองถึงแค่อายุ 70 ปี แต่เนื่องจากสถิติว่าคนไทยจะมีอายุยืนขึ้น ประกันสุขภาพทุกแผนของกรุงเทพประกันชีวิตจึง คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี ทั้งหมด
1.5. ประกันสุขภาพเหมาจ่ายเดิม <ไม่ได้เป็น New Standard Health>
หลายๆท่านอาจจะได้ยินจากข่าว บริษัทประกัน “เท” บ้าง เคลมเยอะ ปรับเบี้ยรายบุคคลขึ้นเยอะบ้าง
พอปรับมาเป็น New Standard Health แล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ
– บริษัทประกันไม่สามารถเทลูกค้าได้แล้ว ยกเว้นลูกค้าปกปิดประวัติสุขภาพ ฯลฯ
– หากมีการเคลมเยอะกว่าปกติ บริษัทจะไม่ปรับเบี้ยประกันรายบุคคล แต่จะปรับอ้างอิงจากทุกคนที่ซื้อสินค้าเดียวกัน (portfolio)
แม้ว่า HHP จะเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ปรับเบี้ยทุกๆ 5 ปีแล้ว อีกปัจจัยนึงที่สามารถส่งผลต่อการเพิ่มเบี้ยได้นั้น คือ “อัตราการเคลมของทุกคนที่ซื้อแผนประกันนั้นๆ/พอร์ตโฟลิโอ (portfolio)” โดยหากอัตราการเคลมโดยเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้มาก บริษัทประกันมีสิทธิ์ปรับเบี้ยเพิ่ม โดยจะต้องขออนุญาตคปภ.ก่อน และต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนดำเนินการปรับเบี้ย
โดยเงื่อนไขนี้เป็นเงื่อนไขใหม่ของประกันสุขภาพแบบ New Standard Health ไม่ว่าบริษัทไหน ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันทั้งหมดครับ โดยเฉพาะทุกๆสินค้าที่เปิดขายใหม่ตั้งแต่ประมาณปี 2019 นั้นล้วนใช้เงื่อนไข New Standard Health ทั้งสิ้น
*****แม้สินค้าประกันสุขภาพจะเปิดตัวในช่วงโควิด19 ที่มีอัตราการเคลมประกันสูงมาก อย่างไรก็ตาม “ทุกสินค้า” ของ BLA ยังไม่เคยมีการปรับเบี้ยใดๆจากตารางเบี้ยที่ออกมา ณ ตอนเปิดตัวสินค้าเลย ไม่ว่าจะเป็นสินค้า BLA Happy Health หรือ BLA Prestige Health เองก็ตาม
จึงทำให้ผมมั่นใจในบริษัทนี้มากๆ อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าในอนาคตตารางเบี้ยจะไม่เปลี่ยนแปลง*
กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) ได้รับรางวัลประกันสุขภาพดีเด่น 2 ปีซ้อน
บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต ได้รับรางวัล “บริษัทที่ให้ความคุ้มครองประกันสุขภาพดีที่สุดแห่งปี” จากงาน Emerging Asia Insurance Awards 2019 และรางวัล “บริษัทประกันสุขภาพที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยม” 2 ปีซ้อนจากงาน International Finance Awards 2021
การันตีคุณภาพระดับโลก
ระยะเวลาเคลมเฉลี่ย 24.6 นาที แบบไม่ต้องสำรองจ่าย
ระยะเวลาเฉลี่ยสำหรับการเบิกจ่ายย้อนหลัง 4.35 วัน!
อัตราการอนุมัติประกันสุขภาพ 91.7%
อัตราการจัดการการเคลมเสร็จสิ้นต่อปี 94.6%
2.ปัจจุบัน BLA มี Happy Health อยู่ 2 ตัว ขออนุญาตเรียกว่าตัวเก่า กับตัวใหม่ (premier) โดยแต่ละตัวจะมีจุดเด่น และจุดด้อย สรุปได้จากตารางดังต่อไปนี้
จากตารางด้านบนจะเห็นว่าสิ่งที่ Premier เพิ่มขึ้นมาจากแบบเก่า คือ
- หมวด 4.3 ค่าแพทย์ผ่าตัด (จากเดิมจ่ายที่ 90 Percentile กลายเป็นจ่ายตามจริงแล้ว) ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากไปใช้รพ. 5 ดาว หรือใช้แพทย์ที่เก่งๆ อีกต่อไป
- หมวด 9-11 วงเงินล้างไต คีโมฯ ฉายแสง targeted therapy แบบ OPD จากเดิมจำกัดแค่ปีละ 200,000 บาทตอนนี้เพิ่มให้สูงสุดเป็นวงเงิน 5,000,000 บาทต่อปี!
ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ เรามีแนวทางช่วยให้คุณเลือกแผนที่เหมาะที่สุดกับคุณดังนี้…
>>> เลือกแบบเก่า (Happy Health) ถ้าคุณ…
- Concern เรื่องเบี้ยเป็นอันดับ 1; เน้น‘เบี้ยถูก’ไว้ก่อน
- มีสวัสดิการ หรือแผนประกันสุขภาพอื่นอยู่แล้ว (มีแผน deductibles) เน้นซื้อมาอุดค่าห้อง และค่ารักษานิดหน่อย
- ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องวงเงินล้างไต คีโม ฉายแสงฯ หมวด 9-11 แบบ OPD มากเพราะเดี๋ยวไปใช้ 30 บาทก็ได้ หรือมีประกันเล่มอื่นจ่ายให้อยู่แล้ว
>>> เลือกแผนใหม่ (Happy Health Premier) ถ้าคุณ…
- ชอบความคุ้มค่า
- ถือเล่มเดียวยาวๆไปได้เลย และไม่ต้องมาคิด/ปรับแผนอีกเลย ถือยาวๆไป
- กังวลเรื่องล้างไต คีโมฯ ฉายแสง targeted therapy แบบ OPD/ไม่นอนรพ.
ในฐานะที่ฟลุคเป็นตัวแทนและ user ของประกันสุขภาพ BLA เองด้วย ฟลุคจะเลือก
>>> แผนใหม่ BLA Happy Health Premier!
1. ตัวอย่างรายละเอียดความคุ้มครอง Premier แบบละเอียด
***1 หากซื้อแผน ‘มีส่วนรับผิด’ สามารถใช้สิทธิ์ในหมวดที่ 6-13 แบบไม่มีส่วนรับผิดได้
***2 หมวด 1: ค่าห้องระบุว่า 3,000 ต่อวันหรือเหมาจ่ายค่าห้องเดี่ยวเริ่มต้นของรพ. = หมายความว่า อันไหนมากกว่าจ่ายอันนั้น เช่น ค่าห้อง/อาหาร/บริการรพ.ของรพ.กรุงเทพ = 11,000 ฿ ก็จะจ่ายให้ 11,000 ฿ เต็ม ไม่ใช่จ่ายให้แค่ 3,000 ฿
*** หมวด7/8 เวลาได้ใบเสนอราคา คำว่าไม่คุ้มครอง ไม่ใช่ว่า ‘ไม่จ่าย’ แต่ในแผนนี้ไม่มีคุ้มครองในส่วนนี้
2. ตารางเบี้ย
BLA Happy Health ค่าเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุก 5 ปี และมากไปกว่านั้น นอกจากอัตราการเพิ่มเบี้ยที่เป็นไปตามอาชีพ เพศ และช่วงอายุที่บริษัทได้กำหนดไว้ เช่น ทุก 5 ปีหรือทุกปี นอกเหนือจากข้อนี้ อัตราการเพิ่มเบี้ยจะขึ้นอยู่กับ “อัตราการเคลมของทุกคนที่ซื้อแผนประกันนั้นๆ/พอร์ตโฟลิโอ (portfolio)” โดยหากอัตราการเคลมโดยเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้มาก บริษัทประกันมีสิทธิ์ปรับเบี้ยเพิ่ม โดยจะต้องขออนุญาตคปภ.ก่อน และต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนดำเนินการปรับเบี้ย
ซึ่งสินค้าทุกชนิดที่เป็น New Standard Health ไม่ว่าบริษัทไหน ก็จะใช้เงื่อนไขเดียวกันทั้งหมดครับ
ในทางกลับกันลูกค้าจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเรื่องบริษัทประกันจะไม่ต่อสัญญาลูกค้า เพราะเงื่อนไขนี้ถูกตัดออกใน New Standard Health เรียบร้อยแล้วครับ
BLA Happy Health เบี้ย
3. จำนวนเงินที่ต้องเตรียมสำหรับประกันสุขภาพ
3.1 หญิง
3.2 ชาย
แอด LINE คุยกับเราตอนนี้!
4. จุดเด่น
4.1. วงเงินคุ้มครอง คือ “ต่อโรค” ไม่ใช่ต่อปี
ดังนั้นหากทำแผน 5 ล้านบาทไว้ และปีนี้เกิดเจ็บป่วยด้วย 3 โรค เราก็จะมีวงเงินคุ้มครองของแต่ละโรค 5,000,000 บาท (หากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงจะได้วงเงิน +10% เป็น 5,500,000 บาท) เป็นต้น
4.2. ค่าห้องให้แบบเหมาจ่าย
จ่ายตามอัตราห้องเดี่ยวเริ่มต้นของแต่ละรพ.เลย ดังนั้นไม่ว่าปัจจุบันค่าห้องเดี่ยวเริ่มต้นจะ 5,000 14,000 หรือหากในอนาคตค่าห้องขึ้นไปเป็น 20,000 บาท เราก็จ่ายให้แบบจัดเต็ม! ไม่งอแง!
4.3. วงเงินค่าล้างไต ฉายแสง คีโมฯ targeted therapy ให้เยอะมาก! (แล้วนะตอนนี้)
ค่าล้างไต ฉายแสง คีโมฯ targeted therapy ของ HHP มีการอัพเดทใหม่ ให้วงเงินสูงสุด 5,000,000 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์แล้ว! จากเดิมที่จำกัดวงเงินต่อปีไว้เพียงแค่ 200,000 บาท!
4.4. เจ็บป่วยจาก 3 โรคร้าย มะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดสมอง จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้น 10%
เฉพาะ 3 โรคร้ายดังนี้ : โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง
จากประสบการณ์ ค่ารักษาในหมวดนี้มักสูงอยู่ที่หลักแสนบาทถึงแตะๆล้านบาทได้เลยทีเดียว เนื่องจากการทำบอลลูนสวนหลอดเลือดหัวใจ คร่าวๆอยู่ที่ 2-3 แสน หรือการทำคีโมฯ (chemotherapy) ที่อิมพอร์ตยาคีโมฯจากต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพสูงและราคาก็จะสูงขึ้นตาม ซึ่งการที่ได้รับวงเงินค่ารักษาเพิ่มขึ้นอีก 10% ก็จะทำให้เราอุ่นใจเรื่องค่ารักษาได้
4.5. ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวในรพ.ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้
3.1 เฉพาะเกี่ยวกับการบำบัดโรคไตวายเรื้อรัง ล้างไต รักษาเนื้องอก/มะเร็ง ฉายรังสี คีโมฯ รวมถึง targeted therapy โดยมีวงเงินการรักษาอยู่ที่ 1,000,000 – 5,000,000 บาทต่อปี (แล้วแต่แพคเกจที่ซื้อ)
3.2 หมวด 6-13 สามารถเบิก HHP แบบไม่มีส่วนรับผิดได้ แม้ว่าเราจะซื้อแผนมีส่วนรับผิด!
4.6. เลือกซื้อได้ 2 แบบ
4.1 แบบไม่มีส่วนรับผิด
4.2 มีส่วนรับผิด
เพื่อให้ท่านได้เลือกแผนที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณที่สุด
4.7. แผนมีความยืดหยุ่น
หากคุณเป็นผู้ที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว ตอนช่วงวัยทำงานอาจเลือกแบบมีส่วนรับผิดประมาณ 30,000 บาท และเมื่อเกษียณแล้วสามารถใช้สิทธิ์ปรับแผนเป็นแบบ ‘ไม่มีส่วนรับผิด’ ได้ เป็นต้น
(อ่านเพิ่มเติมใน FAQ)
5. ข้อจำกัด
5.1. ไม่มีประกันอุบัติเหตุ/มีแต่ให้น้อย (สามารถซื้อเพิ่มได้)
แม้ว่าแผน BLA Happy Health จะไม่มีแถมประกันอุบัติเหตุให้ แต่เราสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมเข้าไปได้ คือ
– ประกันอุบัติเหตุค่ารักษา หรือ (ชื่อใน BLA คือ อบ.3) เช่น ซื้อความคุ้มครองที่ 50,000 บาท
– จ่ายค่ารักษาให้ 50,000 บาท ต่อเหตุการณ์
– follow-up ได้ต่อเนื่อง 52 สัปดาห์หรือ 1 ปี และ
– เบี้ย ‘คงที่’ ถึงอายุ 65 ปี
– เบี้ยเพียงแค่ประมาณ 1,000 บาทต่อปี เท่านั้น!
5.2. ไม่คุ้มครอง MRI, CT Scan แบบ OPD
แนะนำให้ดูแผน BLA Prestige Health ปลดล็อค แทน
แผนประกันสุขภาพของ BLA ต้องซื้อคู่กับประกันชีวิตเท่านั้น
ตัวอย่างเบี้ยประกัน
ประกันชีวิตคุ้มครองสูง 100,000 บาท
ซื้อพร้อม Happy Health Premier แผน 5 ล้านบาทแบบไม่มีส่วนรับผิด
เพศชาย อายุ 35 ปี
ประกันชีวิต 2,394 บาท
Happy Health 21,605 บาท
รวม 23,999 บาท
เพศหญิง อายุ 35 ปี
ประกันชีวิต 2,000 บาท
Happy Health 24,008 บาท
รวม 26,008 บาท
6. เปรียบเทียบประกันสุขภาพเหมาจ่ายกับบริษัทอื่นๆ
สรุป
- ถ้าเปรียบเทียบเรื่องผลประโยชน์โดยเฉพาะของบางกอก กับไทยแลนด์(ค่ายชมพู) จะเห็นว่า
- เลือก บางกอก (ฟ้า) เพราะ 3 เรื่องนี้
1. “เบี้ย” หากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกหมวด โดยเฉพาะหมวด 9-11 พวก คีโมฯล้างไต แบบ OPD ที่แนบมาให้ในแผน … และ
2. หากคุณซื้อแบบ deductibles (มีส่วนรับผิด) สามารถใช้หมวด 9-11 ได้เลยโดยไม่ต้องจ่าย deductibles ก่อน
3. มี deductibles สูงถึง 100,000 บาท เหมาะกับคนที่ประกันสุขภาพของเจ้าอื่น หรือประกันกลุ่มที่ให้วงเงินค่ารักษาสูงอยู่แล้ว และต้องการซื้อ Happy Health Premier เข้าไปเสริม - เลือก ไทยแลนด์ (ชมพู) ถ้า
1. ไม่ต้องการความคุ้มครองหมวด 9-11 อาจเพราะมีสวัสดิการประกันกลุ่ม หรือกรมธรรม์ฉบับอื่นอยู่แล้ว เบี้ยสุขภาพจะถูกกว่าเล็กน้อย
2. เพราะ deductibles เริ่มต้นที่ 20,000 บาท - เลือก ภูเขาแดง หากเรื่อง
1. “เบี้ย” เป็นสิ่งที่สำคัญกับคุณที่สุด **อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของค่าห้อง เนื่องจากสมัยนี้ค่าห้องรพ.ค่อนข้างสูงมาก จึงอาจเกิดส่วนต่างมาก (ตามตารางด้านล่าง)**
- เลือก บางกอก (ฟ้า) เพราะ 3 เรื่องนี้
8. ตัวอย่างเคสการเคลมจริง ใช้จริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน
ยังเลือกไม่ได้ใช่ไหมว่า Happy Health
หรือ Prestige Health ดี?
ไม่รู้เลือกแผนไหนดี? ให้เราแนะนำคุณได้
ADD LINE คลิก! 👇
บแอลเอ แฮปป เฮลธ to เลอกเกราะปองกนสขภาพ
8. คำถามที่พบบ่อย
มี Copayment ไหม
ทุกสินค้าของกรุงเทพประกันชีวิตไม่มี Copayment
ห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้น ใน BLA Happy Health คืออะไร
ห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้น คือ ห้องเดี่ยวราคาแรกสุดของรพ.นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น หาก รพ.BLA มี 3 ตึก ตึก A B C ราคาห้องเดี่ยวเริ่มต้นคือ 5000 5500 และ 6000 บาทตามลำดับ หาก admit BLA จะจ่ายให้ที่เรท 5000 บาท
ถ้าห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้นเต็ม ต้องทำยังไง?
ถ้าห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้นเต็ม และจำเป็นที่จะต้องอัพเกรดค่าห้องไปยังแผนที่สูงขึ้น BLA Happy Health จะไม่รับผิดชอบส่วนต่างค่าห้องที่เกิดขึ้น
สามารถเปลี่ยนแผน Happy Health จากแบบมีส่วนรับผิดเป็นแผนไม่รับผิดได้ไหม?
สามารถทำได้ครับ
โดยฟลุคจะขอแบ่งเป็น 2 เงื่อนไข ดังนี้
1.ไม่ได้อายุระหว่าง 55-65 ปี
จะต้องถอนตัวเก่าก่อนค่อยใส่ตัวใหม่เข้าไป โดยจะนับระยะเวลารอคอยใหม่ 30 หรือ 120 วันแล้วแต่โรค และแผนใหม่ที่ใส่เข้าไปแทนจะเปรียบเสมือนการสมัครประกันใหม่ ดังนั้นหากมีโรคประจำตัวระหว่างที่ทำแผนเก่าอยู่ แผนใหม่จะคุ้มครองทุกโรคยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน และหากเป็นโรคร้ายแรงหรือมีโรคประจำตัวระหว่างทำแผนเก่า แผนใหม่อาจถูกปรับเพิ่มเบี้ย หรือไม่รับประกันเลยก็ได้2.อายุระหว่าง 55-65 ปี
สามารถลด deduct ลงได้ 1 ขั้นเท่านั้นบริษัทฯให้สิทธิ์ลูกค้าเปลี่ยนแผนรับผิดฯ เป็นรับผิดที่จำนวนเงินน้อยลง หรือ ไม่มีความรับผิดได้ จากตารางด้านล่างนี้
หากถือแผนรับผิด 100,000 บาทอยู่ สามารถเปลี่ยนเป็นแผนที่รับผิดน้อยลง คือ 30,000 บาทได้แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นแผนไม่รับผิดได้
หากถือแผนรับผิด 30,000 บาทอยู่ สามารถเปลี่ยนเป็นแผนที่รับผิดน้อยลงหรือไม่รับผิดได้
เมื่อใช้สิทธิ์เปลี่ยนแผนความรับผิดฯแล้ว จะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง (ไม่นับ Waiting period ใหม่) และหากมีโรคประจำตัวระหว่างที่ทำประกันแผนเก่า บริษัทฯจะต้องพิจารณาการรับประกันอีกครั้งหมายความว่า หากตอนเริ่มสมัคร Happy Health ตอนอายุ 35 ปีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว (Happy Health จะคุ้มครองทุกโรค) แต่พออายุ 45 ปี เกิดเป็นโรคไทรอยด์ หากเราใช้สิทธิ์เปลี่ยนแผนความรับผิดฯ จะต้องผ่านการพิจารณาเงื่อนไขการรับประกันจากบริษัทฯอีกครั้ง ซึ่งผลพิจารณาอาจออกมา เช่น คุ้มครองทุกโรคยกเว้นโรคไทรอยด์และการเจ็บป่วยจากโรคไทรอยด์ เป็นต้น
โดยลูกค้าจะใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อดังต่อไปนี้
ต้องซื้อ Happy Health มาอย่างน้อย 5 ปี
ต้องมีอายุระหว่าง 55-65 ปี บริบูรณ์ ณ วันที่ใช้สิทธิ์
สามารถขอใช้สิทธิ์ได้เพียง 1 ครั้งตลอดอายุกรมธรรม์อ้างอิง: เอกสารรบข.39/2565 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต
แล้วถ้าในทางตรงกันข้ามล่ะ? Switch จากแผนไม่รับผิดก่อน เป็นรับผิดในอนาคตสามารถทำได้ไหม
คำตอบ: ไม่ได้ อย่างไรก็ตามสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้โดยการทำกรมธรรม์เล่มใหม่+สุขภาพเล่มใหม่ แล้วพอทำไปแล้วประมาณ 120 วัน หรือ 4 เดือนค่อยดึงสุขภาพจากประกันตัวเดิมออกอยากนอนห้องพรีเมียมขึ้น Happy Health จ่ายไหม?
หากถูกอัพเกรดห้องเนื่องจากห้องเดี่ยวมาตรฐานเต็ม Happy Health จะไม่จ่ายส่วนต่างค่าห้องให้ครับ
ถ้ามีประวัติสุขภาพ ประกันจะรับไหม?
จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ความเป็นไปได้ของผลลัพธ์มีดังนี้
1. รับประกันและคุ้มครองทุกโรค (สำหรับผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัว หรือ เป็นอาการเล็กๆน้อยๆ เช่น แพ้อากาศนานๆครั้ง)2. รับประกันและคุ้มครองทุกโรคยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน และประกันจะไม่จ่ายหากสาเหตุการเจ็บป่วยมาจากโรคนั้นๆ
3. รับประกัน คุ้มครองทุกโรคและเพิ่มเบี้ย โดยผู้ที่เข้าเคสนี้มักเป็นผู้ที่มีประวัติเกี่ยวกับความดัน เบาหวาน เป็นต้น โดย % การเพิ่มเบี้ยจะขึ้นกับฝ่ายพิจารณาของบริษัท โดยอ้างอิงจากประวัติสุขภาพจากทางโรงพยาบาล
4. ไม่รับประกัน หรือเว้นการรับประกันไป 2 ปี หรือจนกว่าจะรักษาหายขาด หลังจากหายขาดส่งใบสมัครประกันให้บริษัทพิจารณาอีกรอบหนึ่ง
หากมีโรคประจำตัวแล้วหายขาด สามารถถอนขอยกเว้นนั้นออกภายหลังได้ไหม?
ได้ โดยจะต้องนำหลักฐานทั้งหมด ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาส่งให้บริษัทพิจารณาอีกรอบหนึ่งเพื่อดึงข้อยกเว้นที่เคยมีออก (ทำให้ประกันสุขภาพนั้นคุ้มครองทุกโรค ไม่มีข้อยกเว้นอีกต่อไป)
Happy Health คุ้มครองต่างประเทศด้วยไหม?
ไม่ครับ ยกเว้นเฉพาะกรณีฉุกเฉิน หรือถึงแก่ชีวิต
โดยท่านจะต้องสำรองจ่ายก่อน และทำการเบิกเคลมย้อนหลัง โดยสามารถส่งเคลมได้ทั้งหมด 3 วิธี คือ
1.ติดต่อผ่าตัวแทนของท่าน
2.BLA Call center 02-777-8888
3.App BLA Happy Life
อย่างไรก็ตามแนะนำทำประกันเดินทางเสริมทุกครั้งที่เดินทางตปท.ดีกว่าครับ (ปรึกษาเพิ่มหลังไมค์ได้)ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) กี่วัน?
Waiting Period คือระยะเวลาที่บริษัทประกันจะยังไม่คุ้มครองประกันสุขภาพ
– การเจ็บป่วยใดๆ เริ่มคุ้มครอง 30 วันหลังกรมธรรม์อนุมัติ
– การเจ็บป่วยด้วย 8 โรคต่อไปนี้ เริ่มคุ้มครอง 120 หลังกรมธรรม์อนุมัติ
1.เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด
2.ริดสีดวงทวาร
3.ไส้เลื่อนทุกชนิด
4.ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก
5.การตัดทอนซอล หรืออดินอยด์
6.นิ่วทุกชนิด
7.เส้นเลือดขอดที่ขา
8.เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ถ้าปรับแผนเพิ่ม/ลดวงเงิน BLA Happy Health จะต้องนับระยะเวลารอคอยใหม่ไหม
ถ้าปรับแผนเพิ่มขึ้น จะนับระยะเวลารอคอยใหม่ในส่วนของวงเงินรวมถึงผลประโยชน์ต่างๆที่เพิ่มขึ้น (เพราะบริษัทประกันรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น)
ในขณะเดียวกัน ถ้าปรับแผนลดลง(ในสินค้าเดียวกัน) ความคุ้มครองทุกอย่างจะนับให้ต่อเนื่องครับ
ถ้าถือ BLA Happy Health เดิมอยู่ อยากอัพเกรดเป็น Premier จะคุ้มครองต่อเนื่องให้ไหม
BLA มอบสิทธิพิเศษอัพเกรดเป็นแผน Premier สำหรับลูกค้าเดิมของกรุงเทพประกันชีวิต โดยจะคุ้มครองให้ต่อเนื่องและไม่นับระยะเวลารอคอยใหม่ โดยจะต้องเข้าเงื่อนไขทั้งหมด 3 ข้อดังนี้
1.รับที่เรทเบี้ยปกติ (ไม่มีเรื่องความดัน เบาหวาน)
2.ไม่เคยเคลมตั้งแต่ซื้อแพคเกจนี้มา
3.ไม่มีข้อยกเว้นเรื่องสุขภาพหากไม่เข้าเงื่อนไขนี้ก็สามารถยื่นได้เหมือนกันครับ ลองติดต่อตัวแทนปัจจุบันของท่านดู